เว็บสล็อตแตกง่าย รอง นรม.พล.อ.ประวิตรฯ เปิดงานสัมมนา B10 สร้างสมดุลปาล์มน้ำมัน สู่ความยั่งยืน

เว็บสล็อตแตกง่าย รอง นรม.พล.อ.ประวิตรฯ เปิดงานสัมมนา B10 สร้างสมดุลปาล์มน้ำมัน สู่ความยั่งยืน

รอง นรม.พล.อ.ประวิตรฯ เปิดงานสัมมนา “B10 สร้างสมดุลปาล์มน้ำมัน เว็บสล็อตแตกง่าย สู่ความยั่งยืน” สร้างการรับรู้ ความมั่นใจ ความเข้าใจในนโยบายและทิศทางด้านพลังงานของประเทศ ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ยืนยันปีนี้ราคาปาล์มดีขึ้น วันนี้ (29 มกราคม 2563) เวลา 08.30 น. ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกล่าวเปิดงานสัมมนา “B10 สร้างสมดุลปาล์มน้ำมัน สู่ความยั่งยืน” เพื่อสร้างการรับรู้ สร้างความมั่นใจให้กลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์ม และสร้างความเข้าใจในนโยบายและทิศทางด้านพลังงานของประเทศที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนภาคเอกชน และเกษตรกรในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรม ประมาณ 1,500 คน

โอกาสนี้ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดงานพร้อมมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา 

รัฐบาลได้รับทราบปัญหาชาวสวนปาล์มมาโดยตลอด และพยายามแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิดผ่านการทำงานของคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มแห่งชาติ (กปน.) ซึ่งในปี พ.ศ. 2562 ไตรมาสที่ 4 คณะกรรมการฯ ได้ขับเคลื่อนนโยบายการใช้ปาล์มภายในประเทศมาผลิตเป็นน้ำมัน B10 และใช้ผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้า ส่งผลทำให้ราคาปาล์มขยับสูงขึ้นอยู่ที่กิโลกรัมละ 7 บาท หลังจากที่ราคาตกต่ำมาอย่างต่อเนื่อง ยืนยันปีนี้ราคาปาล์มดีขึ้นแน่นอน

รองนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า ขอให้พี่น้องเกษตรกรชาวสวนปาล์มเชื่อมั่น พร้อมให้คำมั่นสัญญาว่า รัฐบาลจะดูแลแก้ไขปัญหาราคาปาล์มอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ รัฐบาลได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันทำงานอย่างบูรณาการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ราคาปาล์มอยู่ในระดับที่สมดุลจะต้องไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 5 บาท พร้อมกันนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความเป็นห่วงว่าเมื่อราคาปาล์มสูงขึ้น จะมีการลักลอบนำเข้า ซึ่งจะส่งผลต่อจำนวนปาล์มในประเทศ โดยได้สั่งการให้ส่วนราชการเข้มงวด และขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันสอดส่องไม่ให้มีการลักลอบนำปาล์มเข้ามาในประเทศ

จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีเดินทางไปยังบริษัท ศรีเจริญปาล์มออย จำกัด เพื่อเยี่ยมชมลานเทปาล์ม โดยมีตัวแทนชาวสวนปาล์มกล่าวขอบคุณรองนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่ให้ความช่วยเหลือจนกระทั่งสามารถแก้ปัญหาราคาปาล์มได้จริง และรู้สึกภาคภูมิใจที่รัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ปัญหาที่ผ่านมา ตามนโยบายของรัฐบาลที่ประกาศเอาไว้

เสร็จแล้ว รองนายกรัฐมนตรีเดินทางต่อไปยังบริษัท ป. พาณิชรุ่งเรืองปาล์มออยล์ 2 ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร

เปิดประวัติหนุ่มขอทานตาบอด ที่แท้ก็คนค่อนข้างมีฐานะ

วันที่ 29 มกราคม 2563 จากกรณีขอทานปลอม ที่ถูกจับโป๊ะหลังจากขับรถฟอร์จูนเนอร์ ซึ่งเจ้าตัวได้ออกมารับสารภาพว่า ที่ต้องทำเพราะติดหนี้การพนันนั้น ล่าสุด พระครูนนทวรกิจ เจ้าอาวาสวัดดอนสะแก กล่าวว่า ขอทานคนดังกล่าวไม่เกี่ยวกับทางวัด วัดเองมีกล้อง 9 ตัว แต่ขอทานคนนี้ เวลาเดินเข้ามาในวัด จะพยายามหลบกล้อง จนทราบว่า หนุ่มขอทานได้ไปเดินขอเงินที่ตลาดพระปิ่น 3 ห่างจากวัด 700 เมตร

ด้านนางวัน (นามสมมติ) ชาวบ้านในซอยเดียวกับ หนุ่มขอทาน เผยว่า แต่ก่อน หนุ่มขอทานมีอาชีพขายหมู แต่เลิกไปสักพัก โดยอยู่กับภรรยา ส่วนลูก 2 คนไปอยู่ที่อื่น และภรรยาขายหมูปิ้ง ส่วนเจ้าตัวเอง ออกจากบ้านช่วง 05.30 น. กลับมาบ้านช่วงบ่าย ตนคิดว่าไปทำงาน นึกไม่ถึงว่าไปขอทาน เจ้าตัวไม่ได้พิการ ขับรถได้ปกติ

ด้านนายธวัช วินรถจักรยานยนต์ เผยว่า ชายคนดังกล่าว จะมาเดินขอทานที่ตลาดเกือบ 1 เดือนแล้ว แต่ไม่ได้มาทุกวัน มีครั้งหนึ่งเขาพยายามข้ามถนน ตนก็จะไปช่วย แต่เขาบอกว่าไม่ต้องมาช่วย เพราะเขามองเห็น ตนจึงรู้ว่า เขาไม่ได้ตาบอดจริง แค่ใส่แว่นหลอก แต่ตนไม่ได้บอกใคร เพราะคิดว่าพูดไปคงไม่มีใครเชื่อ ด้านหลานชายและหลานสะใภ้ของหนุ่มขอทาน เผยว่า เบื้องต้นไม่ทราบเรื่อง ปกติเจ้าตัว จะเป็นคนไม่สุงสิงกับใคร เขาเองไม่ได้ยากจน มีรถ มีบ้าน ส่งลูกเรียนจนจบปริญญาตรี

จับแล้วเสือโหย กลายเป็นเสือเขี้ยวหักสิ้นลาย จากกรณี รับแจ้งจากชาวบ้านว่า นายอนุสรณ์ หรือ โอ๋ สมบุญ อายุ 32 ปี ฉายา “เสือโหย” พยายามข่มขืน และลักขโมย ประกอบกับเพิ่งพ้นโทษ จึงทำให้ชาวบ้านในพื้นที่โดยเฉพาะผู้หญิง เด็ก คนชรา ต่างพากันขวัญผวา หวาดกลัว ไม่กล้าอยู่บ้านตามลำพัง และไม่กล้าไปกรีดยาง

ล่าสุด เวลาประมาณ 18.30 น. วันที่ 28 ม.ค.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมฝ่ายปกครอง ได้เดินเข้าป่าเป็นระยะทางประมาณ 3-4 กิโลเมตร บริเวณพื้นที่ ม.10 ต.ย่านยาว อ.คีรีรัฐนิคม จ ก่อนจะพบตัวและสามารถจับกุมนายอนุสรณ์ ได้ขณะนอนกบดานอยู่ในป่า ในตำบลที่ก่อเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม เบื้องต้นยังให้การปฏิเสธ จึงส่งตัวดำเนินคดีตามหมายจับต่อไป

ขณะที่ศาลได้อนุมัติออกหมายจับรวม 2 คดี คดีแรก ลงวันที่ 25 ม.ค.63 ในข้อหา พยายามข่มขืนกระทำชำเรา บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย เหตุเกิดพื้นที่ ม.3 ต.บ้านยาง อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี คดีที่2ลงวันที่ 28 ม.ค.63 ในข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน เพิ่มอีกหนึ่งหมาย หลังนายอนุสรณ์ หรือ โอ๋ สมบุญ อายุ 32 ปี หรือ “เสือโหย” ก่อเหตุเกิดในพื้นที่ ม.10 ต.ย่านยาว อ.คีรีรัฐนิคม รวมสองคดีด้วยกัน เว็บสล็อต , สล็อตแตกง่าย